实至名归的爱国赤子——罗锦碟 | บุคคลรักชาติด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ความสามารถของท่านเป็นที่ประจักษ์——คุณเกี๊ยบ ศรีสันต์ |
|
|
|
[推荐级别] |
 |
[上传时间] |
2015-12-23 01:33:19 |
[视频介绍] |
【解说】
他出生泰国，却心怀中国。往返中泰两百多次，他为建设家乡丰顺送钱送物，不辞劳苦。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席罗锦碟：
做一个人够对国家，对民族来贡献，问心无愧。
【解说】
他投身海外抗日工作，不顾安危；他重建泰国丰顺会馆，大公无私。他说，自己生为中国人，死为中国魂。他，是泰国丰顺会馆永远名誉主席——罗锦碟。
【解说】
1999年9月2日，中国时任国家主席江泽民对泰国进行国事访问。一位泰国侨领就中国国情提出了六条政策性建议。内容涉及语言、教育、人才流失、贪污腐败等问题的看法和建议。这位泰国侨领就是罗锦碟。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席罗锦碟：
江主席来到泰国，我就向他秘书提出六条（建议）：第一条，全国语言要统一，为什么那么多语言不统一，秦始皇统治中国统一文字，为什么千几年来中国语言不统一？第二条，（国共）打内战的电影、电视不能做。第三条，中国的人才外流。为什么，很多留学生头脑非常灵活，建议他回来。第四条，既然毛主席解放西藏，现在西藏、甘肃、新疆还是讲他们的语言，用他们的文字，造成我们国家的损失，这是很重要的。第五条，从小学就要教爱国主义，人从小头脑（就要知道）不能贪污，没有国哪有家。第六条就是不论皇亲国戚，贪污都要枪毙。
【解说】
罗锦碟，祖籍中国广东省丰顺县汤坑镇湖陂乡，现任泰国丰顺会馆永远名誉主席。出生在泰国北碧府的罗锦碟，是第四代华人，五岁那年，他第一次跟随父母回到祖国家乡。在那里，罗锦碟找到了自己的“根”。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
五岁跟父亲母亲回中国，回中国以后，七岁我祖母带我回泰国，九岁我的父亲过世了，所以（我的）文化不高，读的书很少。但是我的心是这样想，我是中国人来的，我的父亲是中国人，母亲中国人，即使泰国出生（要算）泰国人。不是，我的根是那里（中国）的，我很爱中华民族。
【采访】罗锦碟夫人 郑雷鸣：
在我的印象中，罗主席是一个爱国家、爱民族，爱我们中华民族的一个人。我在罗主席身边也学到了很多。罗主席说，他虽然生长在海外，但是他的根是在我们中国。我们自己作为一个中华民族的子孙，更应该爱国家，爱民族。
【解说】
2015年，在纪念中国人民抗日战争胜利暨世界反法西斯战争胜利70周年大阅兵前夕，罗锦碟收到了一个来自北京的包裹，就是这本抗战纪念册，收到这本沉甸甸的纪念册，罗锦碟感慨万千，他说，70年过去了，没想到中国政府还记得他这位曾经的海外抗日地下党。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
泰国只有我一个人得到这份纪念册，没有其他人得到。我很骄傲，现在（国家）强盛起来了，国家举办纪念活动，还想到我罗锦碟。
【解说】
70年前艰苦卓绝的抗日地下工作情景，罗锦碟依然历历在目。1942年，受到孙中山与毛泽东的影响，年轻的罗锦碟毅然投身到抗日战争中，跟随泰国共产党领导人之一邱及先生，参加共产党地下情报工作。罗锦碟说，日本的侵略与屠杀惨绝人寰，作为中华子孙一定要起来革命，即便为祖国牺牲也在所不辞。这是他追随自己的信仰所做出的选择，至今仍然觉得自豪。
【解说】
受到孙中山与毛泽东的感召，1942年罗锦碟毅然投身到抗日战争中，参加海外共产党地下情报工作。罗锦碟说，日本的侵略与屠杀惨绝人寰，作为中华子孙一定要起来反抗，即便为祖国牺牲也在所不辞。抗日救国，这是他追随革命精神和信仰所做出的选择，至今仍然觉得自豪。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
孙中山先生13岁时他说，这个国家不改革不行了，为什么呢，看见清兵强抢民财，强奸民女，这个国家不改革不行了，那个时候就感动我的心了。在毛主席出现以后，我们中国就完全不一样了。他的很多青年都参加在里面，爱国爱乡，不许自私自利。
【解说】
在一次工作中，由于汉奸出卖，罗锦碟面临着身份随时会被曝光的危险。在千钧一发之际，战友把罗锦碟的照片对折后藏在鞋底，才安全地躲过间谍的搜查。逃过一劫的罗锦碟，依旧坚持做着地下情报工作。同时，通过叔叔罗名等的关系，把钱和物资运送到马来西亚同盟会，再由同盟会传至新加坡革命领袖陈嘉庚的手上，几经辗转，最后送到中国，支援中国抗战。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
我们作为一个人，爱国家，爱民族，爱我们的国家，我们的国家不强盛，人家就要欺负我们，我们的国家强盛，人家就不敢乱来。国家今天能够这样发达，我们华侨都非常欢喜。
【解说】
改革开放后，身居泰国的罗锦碟仍然时时关心祖国的情况，对家乡的发展更是倾囊相助。由于国内交通不便，罗锦碟常需要带着大量现金辗转好几个国家与地区，才能到达家乡丰顺县。有一年，他带着300多万元现金，从泰国乘坐班机飞抵香港，却遭到香港海关拦阻扣留。罗锦碟当时就急了，因为这笔钱是要带给家乡建学校的。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
那个香港人说，你带这么多钱，不放。我说我是去中国建学校的，说了很久，最后我骂他。我拿钱回中国建学校犯什么法律啊你说。香港过了以后从海陆丰进我们的丰顺，非常辛苦。我去中国两百几次，做五个学校，都是华侨捐钱啊。
【同期声】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
第一做的学校就是华侨中学，第二做的就是汤坑中学，第三的就是丰顺中学，第四是汤西中学，第五的是潘田中学。现在丰顺出了很多人才了啊，科学家也有，清华大学也很多，所以这些对于我心里来说就是一种光荣。
【解说】
据丰顺县当地官方统计，罗锦碟对家乡贡献甚多，其中创造了两项记录至今无人逾越。一是自1978年以来，至今返乡多达270多次；二是参与家乡慈善项目最多、范围最广，其中涉及教育、医疗、交通、水利、旅游等方方面面。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
用费都是自己的，公家的钱我从来都不过问它的。一个个都算清楚。我们丰顺人都非常欢喜，有学校啊，有中学啊，人民医院啊，我也帮助。每一样我都能做到就帮助。
【采访】罗锦碟夫人 郑雷鸣：
罗主席回去建这个丰顺中学和潘田中学，还有很多小学医院、道路，还有寺庙，很多，那时我就跟在罗主席身边学习。不管遇到什么困难，他都会讲说，没关系，我们自己受一点苦没关系，跟别人能够捐到钱，大家一人一点力量，就完成了一种事业。让我们家乡的孩子能够有学可以上，能够过上好的生活。
【解说】
1996年至2001年，罗锦碟连任三届泰国丰顺会馆主席。为更好展示丰顺风貌，罗锦碟与多位泰国丰顺乡贤商议，决定重建泰国丰顺会馆。当时亚洲正受金融风暴影响，经济低迷，罗锦碟率先捐资一千万泰铢，并挨家逐户拜访100多位丰顺侨亲，最终筹得一亿三千多万泰铢。同时，罗锦碟亲自参与会馆设计，并监督等每个施工环节，仅用了不到两年的时间，一座楼高九层，建筑面积达一万多平方米的新会馆便得以落成。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
我爱丰顺，我一直要做丰顺会馆。所以我就发动，做投资，发动捐钱。做这个会馆的时候，遇到很少困难，因为困难是人可以改造的，好像工人不好，好像其他的事情，不要用头脑想，去化解它。大公无私，才能够完成。这个会馆做上来了以后，国内一提到丰顺人，（丰顺人）地位都提上来了，这是非常重要的。
【解说】
在职期间，罗锦碟多次组织“爱心献泰南，歌咏颂中华”活动，对中国、泰国各地发生的自然灾害，多次进行捐款赈灾。由于罗锦碟对社会的突出贡献，他多次获得泰皇颁发的白象勋章。当罗锦碟卸任时，泰国多家会馆联合铸送了一块金盾送给他，上镌“实至名归”四字，这是泰华社会对罗锦碟的至高公认。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
（人应该）不自私，拿到钱要用在公家，拿到钱不能自私。钱上要分明。中国有句古话：“钱上分明大丈夫。”每个人要有爱心，爱中华民族，互相帮助，就一定会成功的，这是我的人生看法。
【解说】
如今，年过九旬的罗锦碟对生活保持着乐观向上的心态，每天都关心着国家时政，关注着家乡与泰国丰顺会馆的发展。他说，民族团结的国家一定能够强盛，能够为国家，为民族做贡献，他感到非常光荣。
【采访】泰国丰顺会馆永远名誉主席 罗锦碟：
我是泰国出生嘛，很多人说你比中国人还爱中国，对！人生能够对国家，对民族来贡献，问心无愧。做一个人，对吗。这些都是非常荣耀的。
【คำบรรยาย】
ถึงแม้ท่านจะเกิดที่ประเทศไทย แต่มีใจรำลึกถึงประเทศจีน เดินทางไปมาระหว่างไทยและจีนมากกว่า 200 ครั้ง ท่านได้ให้การสนับสนุนการสร้างบ้านเรือน ส่งเงิน ส่งข้าวของไปที่บ้านเกิดที่เมืองเฟิงซุ่น อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
【บทสัมภาษณ์】คุณเกี๊ยบ ศรีสันต์ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ สมาคมฮงสุนแห่งประเทศไทย:
เกิดเป็นคนถ้าได้ช่วยเหลือประเทศชาติ ช่วยเหลือชนชาติอย่างเต็มที่แล้ว ไม่มีอะไรต้องเสียดาย
【คำบรรยาย】
ท่านมีส่วนร่วมในการต่อต้านญี่ปุ่นในต่างประเทศ โดยไม่คำนึงถึงอันตราย และเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมฮงสุน แห่งประเทศไทย ถือเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ท่านได้กล่าวไว้ว่า เกิดเป็นคนจีน ถึงตายไปก็ยังเป็นวิญญาณจีน ท่านผู้นี้คือ คุณเกี๊ยบ ศรีสันต์ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ สมาคมฮงสุนแห่งประเทศไทย
【คำบรรยาย】
วันที่ 2 กันยายน ปีค.ศ.1999 นายเจียง เจ๋อ หมิน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของจีนในขณะนั้น ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย ได้มีผู้นำชาวไทยเชื้อสายจีนท่านหนึ่งได้เสนอความคิดเห็นต่อสถานการณ์ของจีนทั้งหมด 6 ข้อ ท่านได้กล่าวถึงมุมมองและแนะนำปัญหาที่เกี่ยวกับภาษา การศึกษา ขาดบุคลลากรที่มีความสามารถ และการปราบปรามทุจริต บุคคลท่านนี้คือ คุณเกี๊ยบ ศรีสันต์
【บทสัมภาษณ์】คุณเกี๊ยบ ศรีสันต์ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ สมาคมฮงสุนแห่งประเทศไทย:
เมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีเจียงได้เดินทางมายังประเทศไทย ผมได้เสนอความคิดเห็นทั้งหมด 6 ข้อให้กับเลขาฯของท่านคือ ข้อ 1 ทั้งประเทศควรใช้ภาษาเดียวกันเป็นภาษากลาง ข้อ 2 ไม่ควรจัดทำภาพยนตร์หรือละครเกี่ยวกับสงครามภายในประเทศ ข้อ 3 บุคคลากรที่มีความสามารถของจีนไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ เป็นเพราะว่านักเรียนนอกเหล่านี้มีมันสมองที่ดี แนะนำให้พวกเขากลับประเทศ ข้อ 4 ถึงแม้ว่าท่านเหมาเจ๋อตุง จะปลดแอกธิเบตแล้ว แต่ในตอนนี้ธิเบต กานซู่ ซินเจียงยังคงใช้ตัวอักษร และภาษาของพวกเขา ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศของเรา ข้อนี้สำคัญมากๆ ข้อ 5 ควรปลูกฝังให้รักประเทศชาติตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา จะต้องจดจำตั้งแต่เล็กว่าจะต้องไม่ทุจริต ถ้าไม่มีประเทศชาติจะมีบ้านได้อย่างไร ข้อ 6 ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาสามัญ หรือเจ้าขุนมูลนาย หากทุจริตจะต้องกำจัดให้หมด
【คำบรรยาย】
คุณเกี๊ยบเป็นคนหมู่บ้านหูเปย ตำบลหยางคัง อำเภอเฟิงซุ่น มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ สมาคมฮงสุนแห่งประเทศไทย เกิดที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นคนจีนรุ่นที่ 4 เมื่ออายุได้ 5 ปี ได้ติดตามบิดามารดากลับไปยังประเทศมาตุภูมิ ในครั้งนั้นเอง ทำให้เขาได้ค้นพบ "รากเหง้า" ของตัวเขา
【บทสัมภาษณ์】คุณเกี๊ยบ ศรีสันต์ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ สมาคมฮงสุนแห่งประเทศไทย:
ตอนผมอายุ5 ขวบได้ตามคุณพ่อและคุณแม่ กลับไปยังประเทศจีน เมื่ออายุได้ 7 ขวบ คุณยายได้พาผมกลับมายังประเทศไทย ต่อมาพ่อของผมได้เสียชีวิตลงเมื่อผมอายุได้ 9 ขวบ เพราะฉะนั้นผมจึงเป็นคนที่เรียนมาน้อย ไม่ค่อยได้รู้วัฒนธรรม แต่ในใจผมคิดว่า ผมมาจากประเทศจีน พ่อและแม่ของผมก็มาจากประเทศจีน ถึงแม้ว่าตัวผมจะเกิดในประเทศไทย ผมก็นับเป็นคนไทย แต่รากเหง้าของผมอยู่ที่ประเทศจีน ผมรักประเทศจีนมากครับ |
|
|
|
|
ไทย
