国家妇女院举办「迎接东盟共同礼」学术讨论会副总理荣育阁下及妇女院主席丘夏莉分别发表讲话讨论会上总结出十四点建议转达政府制定相关政策- 泰国华人网【泰华网】

国家妇女院举办「迎接东盟共同礼」学术讨论会副总理荣育阁下及妇女院主席丘夏莉分别发表讲话讨论会上总结出十四点建议转达政府制定相关政策

สภาสตรีแห่งชาติฯ จัดโครงการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “สตรีกับการเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน” โดยได้รับเกียรติจาก นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ฯ กล่าวเปิดการส

　　泰国国家妇女院于三月廿八日全天，假玛南卡诗拉会议厅举行讨论会，会议主题：为迎接东盟共同体，妇女如何做准备。国家妇女院主席坤仁丘夏莉主持讨论会。副总理兼内长荣育．威猜迪，费里彻拿曼基金会东亚及东南亚区主任莱诺．阿当博士，政府劳工，教育，工业，农业，商业各部领导，各领域学者，各妇女组织领导，代表四百余人参加会议。

　　国家妇女院主席丘夏莉在讨论会开幕式上致词指出，东盟从1967年诞生至今，东盟各国在各层面的合作日益扩大和深化，2010年泰国与东盟签署了商品自由贸易协议。为应对不断变化的外围和全球形势，继续推进区域一体化进程，东盟已确定将于2015年成立共同体，东盟间的合作范围将从经济，文化，扩大到社会，教育和安全等各领域。妇女作为国家的基本成员对此应做好准备，迎接东盟共同体的成立。

　　丘夏莉说，当前存在的问题是，妇女在教育，机会，法律，家庭负担等方面存在不平等待遇，以及遭受暴力虐待等等，为从这些不平等境遇中解脱出来，除了妇女本身的努力和斗争之外，妇女机构和政府的作用是不可忽视的重要力量。作为政府方面，目前已成立了「发展妇女能力基金」作为推动妇女更好发挥在政治，安全，经济，社会，文化等领域作用的机制，这也符合东盟共同体的发展方向。社会各级妇女应该很好探讨如何利用并从该基金得到实惠的途径。丘夏莉表示，国家妇女院希望通过今次的讨论会，使妇女充分认识东盟共同体成立后自己应尽的责任及享有的权利，并做好准备。

　　与会各部门，各领域的领导，学者围绕东盟共同体的成立，泰国妇女如何做好准备，目前妇女存在的问题等，广泛发表看法和建议，发言的有：吞武里大学讲师阿侬逸差博士，讲题是，「东盟的由来」，玛希隆大学诗巴帕博士讲「东盟人权」费里彻基金会项目经理屏腊帕讲「妇女角色与东盟共同体」另外，劳动，教育，工业，农业等政府部门负责官员也分别在会上发了言。

　　会议最后归纳总结出十四点建议，委托内长转呈政府，作为制定有关政策的参考：1.政府应有鼓励措施，推动英语和东盟各国语言学习。2.加强维护人权，打击人口买卖。3.成立东盟共同体专项咨询中心。4.提高政府人员对东盟共同体成立后的认识和应对能力。5.提高掌握通讯科技能力。6.加强基础学习。7.加强保护消费者措施。8.提高劳工劳动技能。9.加强人力资源培养。10.关注人权，加强对人口贩卖的打击力度。11.扩大交通网，使之连接东盟各国。12.发挥旅游优势，注重服务和销售OTOP产品。13.注意知识产权保护，打击侵权行为。14.提高各机构和办事部门的管理水平。

วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555 สภาสตรีแห่งชาติ ฯจัดโครงการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “สตรีกับการเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน” ณ หอประชุมมนังคศิลาหอประชุมมนังคศิลา บ้านมนังคศิลา ถนนหลานหลวง กรุงเทพฯ โดยมีประธานสภาสตรีแห่งชาติ ฯ คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล และ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเปิดการสัมมนา ในงานมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 400 คน จากหลากหลายภาคส่วน โดยมีวิทยากรจากทั้งทางภาครัฐ และเอกชน

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ สิทธิหน้าที่ บทบาทและศักยภาพของสตรีที่เกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียน ศึกษาข้อเท็จจริง สถานการณ์ของปัญหาและผลกระทบด้านต่างๆ ตลอดจนศักยภาพความพร้อมของประเทศ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วงเช้า ดร.ศรีประภา เพชรมีศรี อาจารย์ประจำศูนย์สิทธิมนุษยชนศึกษาและการพัฒนาสังคมมหาวิทยาลัยมหิดล ได้สัมมนา ในหัวข้อ “สิทธิมนุษยชนอาเซียน” และต่อด้วยกิจกรรมการระดมความคิด ใน 6 ประเด็นสำคัญกับการเปิดประชาคมอาเซียน อันได้แก่ สิทธิมนุษยชน แรงงาน เศรษฐกิจ การศึกษา การเกษตร สิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข ดำเนินรายการโดย ดร. พิมพ์รภัช ดุษฎีอิสริยกุล มูลนิธิ ฟรีดริช เนามัน โดยผู้เข้าร่วมงานได้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย พร้อมทั้งระดมข้อเสนอแนะอันน่าสนใจระหว่างการทำกิจกรรม ทั้งนี้ทางสภาสตรีได้รวบรวมและสรุปข้อเสนอแนะ เสนอต่อ รองนายกรัฐมนตรี ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

ช่วงบ่าย เป็นการอภิปราย ในหัวข้อ “การเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน” โดยวิทยากรจากหลากหลายสาขาอาชีพ อาทิ นางสาวส่งศรี บุญบา รองปลัดกระทรวงแรงงาน นางสาวจุไรรัตน์ แสงบุญนำ รองปลัดกระทรวงศึกษานางสาวชุติมา บุณยประภัศร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายมังกร ธนสารศิลป์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และนายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักเศรษฐกิจการเกษตร โดยแต่ละองค์กรได้เน้นย้ำผู้เข้าร่วมสัมมนาถึงความสำคัญในการตื่นตัวและวางแผนการดำเนินการเพื่อเตรียมสังคมไทยให้พร้อมต่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า

สรุปประเด็นข้อเสนอแนะในการประชุมได้ 14 ประเด็น เพื่อให้รัฐบาลพิจารณาเป็นนโยบายต่อไป

1.รัฐบาลควรมีมาตรการในการผลักดันให้มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและภาษาในประเทศแถบอาเซียน

2.เพิ่มความคุ้มครองในด้านสิทธิมนุษยชน และปราบปรามกระบวนการค้ามนุษย์

3.ก่อตั้งศูนย์ปรึกษาประชาคมอาเซียน

4.ยกระดับความรู้และความสามารถของพนักงานรัฐเกี่ยวกับสถานประกอบการประชาคมอาเซียน

5.ยกระดับทางด้านการผลิตเทคโนโลยีการสื่อสาร

6.เสริมสร้างด้านการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน

7.เสริมสร้างมาตรการการคุ้มครองผู้บริโภค

8.พัฒนาทักษะความสามารถของผู้ใช้แรงงาน

9.พัฒนาการฝึกอบรมทางด้านทรัพยากรมนุษย์

10.เอาใจใส่ด้านสิทธิมนุษยชนและกระบวนการค้ามนุษย์ให้มากขึ้น

11.ขยายเครือข่ายการขนส่งให้เชื่อมต่อระหว่างแต่ละประเทศในแถบอาเซียน