【视频】关于中国全国政协主席贾庆林阁下将于2012年4月20日至25日对泰国进行正式友好访问中国驻泰国大使馆管木大使4月12日星期四上午10点在大使馆召开媒体吹风会- 泰国华人网【泰华网】

【视频】关于中国全国政协主席贾庆林阁下将于2012年4月20日至25日
对泰国进行正式友好访问中国驻泰国大使馆管木大使4月12日星期四上午10点在大使馆召开媒体吹风会

关于中国全国政协主席贾庆林阁下将于2012年4月20日至25日对泰国进行正式友好访问中国驻泰国大使馆管木大使4月12日 (星期四) 上午10点在大使馆开媒体吹风会（上）

关于中国全国政协主席贾庆林阁下将于2012年4月20日至25日对泰国进行正式友好访问中国驻泰国大使馆管木大使4月12日 (星期四) 上午10点在大使馆开媒体吹风会（下）

「泰国电视第9台」记者在全国政协贾庆林主席访泰吹风会上现场提问

记者在全国政协贾庆林主席访泰吹风会上现场提问有关华文教育现状

   中国驻泰国大使馆管木大使4月12日 (星期四) 上午10点在大使馆开媒体吹风会有中泰各媒体参加，还有闻讯赶至的「泰国电视第9台」及「华文媒体」临场采访，作第一手播出，可见深受重视。
   管木大使在媒体吹风会上表示：
   为深化合作共谱中泰友谊。应泰国上议院邀请，中国全国政协主席贾庆林阁下将于2012年4月20日至25日对泰国进行正式友好访问。此访是今年中泰两国间的一次重要访问，也是中国全国政协主席时隔17年再次访泰，对促进中国战略性合作关系具有十分重要的意义。
访问期间，贾主席将会见国王御代表诗琳通公主殿下、枢密院主席炳、总理英拉、国会主席兼下议长颂萨、上议长提拉德，就双边关系及双方共同关心的国际和地区问题深入交换意见。此外，还将出席泰华各界主办的公宴，并前往普吉和清迈两地参加访问。贾主席将同泰国各界人士广泛接触、共叙“中泰一家亲”的传统友谊。
当今世界正处在大发展大变革大调整时期，亚洲发展备受瞩目，东盟一体化进程加快发展，地区合作不断深化，中国与泰国及东盟的关系面临新的发展机遇。作为友好邻邦，我们高兴地看到泰国2011年举行大选后，政治保持稳定，社会和谐续有发展。泰国人民战胜特大洪涝灾害，保持经济稳步增长。
   中泰两国地理相邻，文化相通，血缘相亲。两国人民友谊源远流长，基础深厚。两国建交37年的历程证明，中泰两国关系是不同社会制度国家间和睦相处、互利合作、共同发展的典范。主要有以下特点：
   一、高层交往频繁。中泰建交以来，中国历届国家领导人都曾访问过泰国，如同“走亲戚”一样。泰国王室成员先后多次访华，历届政府、议会、军队领导人也都对中国进行了访问。去年12月，习近平副主席对泰国进行了正式访问，成果丰硕。诗琳通公主上周成功访华，4月下旬泰国总理英拉也个将对中国进行正式访问。这些频繁高层往来，为双边关系持续、全面、深入发展注入了强大动力。
   二、双边合作机制健全。两国签署了战略性和合作共同行动计划，为新世纪两国关系发展明确了方向。建立了副总理级经贸联委会以及科技联委会、外交磋商、防务安全磋商、领事磋商等机制，有助于双方不断挖掘合作潜力，充实双边关系内涵。此外，泰国还与中国云南、广东、广西、厦门等地方省市成立了合作机制。
   三、经贸合作富有成效。中国是泰国第二大出口目的地和第二大进口来源国，泰国是中国在东盟国家中第二大贸易伙伴。双边贸易额从建交之初的2462万美元增加到2011年的647.4亿美元，今年1-3月贸易额为157.7亿美元，同比增长66%。2011年，中国对泰投资9.5亿美元，列泰投资来源国第二位。去年习近平副主席访泰时，两国签署了双方可持续发展合作等重要文件，提出2015年双边贸易额实现1000亿美元的新目标。
   四、各领域合作蓬勃发展。曼谷中国文化中心建设进展顺利，“欢乐春节”和“中泰一家亲”音乐会受到两国人民的广泛欢迎。汉语教学在泰国发展方兴未艾，泰国现已有孔子学院12所、孔子课堂11所，80余万人学习中文。各自在对方国家的留学生均已超过1万名，成为两国青年交流、促进友好的一支生力军。中泰已互为重要旅游客源国，2011年全年中国到泰国游客达176万人次，同比增长60%。
五、地区合作成果丰硕。泰国在东盟国家中第一个与中国建立战略性合作关系，在中国-东盟自贸区建设过程中率先实现蔬菜、水果贸易早期收获，第一个同中国开展了武装部队联合训练。作为东盟重要成员国，泰国长期以来为推动中国-东盟关系及各领域合作、东盟一体化建设和地区合作发挥了积极作用。
    回顾过去，两国全方位、高水平、宽领域、深层次的合作，为两国共同发展提供了强大动力，为两国人民带来了实实在在的利益。展望未来，两国关系发展前景广阔，合作潜力巨大。双方将会紧紧抓住机遇，实现战略对接，深化合作。相信在两国政府和人民的共同努力下，两国关系一定会迎来更加绚烂的明天。

งานวันนี้ข้าพเจ้าอยากจะแนะนำสภาพต่างๆของการมาเยือนของประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน ฯพณฯท่านเจี่ยชิงหลินที่จะมีกำหนดเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ฯพณฯท่านเจี่ยชิงหลินประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน มีกำหนดเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของวุฒิสภาไทย ระหว่างวันที่ 20 – 25 เมษายน 2012 การมาเยือนครั้งนี้เป็นการมาเยือนครั้งสำคัญสำหรับประเทศจีนกับประเทศไทย และเป็นการมาเยือนประเทศไทยในรอบ 17 ปี ของประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน การมาเยือนครั้งนี้จะได้ส่งเสริมให้ความสำคัญระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทยและให้ความสำคัญทางเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทยนั้นพัฒนายิ่งขึ้นไป ตามกำหนดการเบื้องต้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเสด็จแทนพระองค์ พระราชทานพระวโรกาสให้ ฯพณฯท่านเจี่ยชิงหลิง เข้าเฝ้า นอกจากนั้นฯพณฯท่านเจี่ยชิงหลิงยังจะเดินทางไปเข้าเยี่ยมคารวะฯพณฯท่านเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในขณะเดียวกันฯพณฯเจี่ยชิงหลิงยังถือโอกาสเข้าพบปะหารือกับผู้นำไทยอีกหลานท่านฯพณฯท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ท่านสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และท่านพลเอกธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ฯพณฯท่านเจี่ยชิงหลิง จะถือโอกาสนี้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี และประเด็นสำคัญๆระหว่างประเทศและภูมิภาค ระหว่างการเยือนกรุงเทพฯ ฯพณฯเจี่ยชิงหลิง จะเข้าร่วมงานเลี้ยงที่องค์กรชาวจีนจัดขึ้น นอกจากจะมากรุงเทพฯแล้ว ฯพณฯเจี่ยชิงหลิง ยังจะเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่ทราบกันว่าปัจจุบันนี้โลกกำลังอยู่ในยุคสมัยแห่งการปรับเปลี่ยน การปฏิรูปและการพัฒนาครั้งใหญ่ การพัฒนาของอาเซียนได้ถูกจับตามองจากทั่วโลก กระบวนการการรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียนนั้นพัฒนาอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ระหว่างจีนไทยและความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนว่ามีโอกาสใหม่ๆที่จะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกัน ในฐานะที่เป็นมิตรที่ดีจีนมีความยินดีที่หลังการเลือกตั้งการเมืองของไทยมีความมั่นคง สังคมได้เข้าสู่การปรองดองกัน และได้เห็นประเทศไทยสามารถผ่านวิกฤตการณ์น้ำท่วมมาได้ และเศรษฐกิจของไทยได้พัฒนาและฟื้นฟูมาอย่างต่อเนื่อง จีนไทยมีความใกล้เคียงกันทางด้านภูมิศาสตร์ ความคล้ายคลึงกันทางด้านวัฒนธรรม และประชาชนของทั้งสองประเทศมีสายเลือดเดียวกัน มีพื้นฐานของมิตรภาพที่แน่นแฟ้น ประชาชนของทั้งสองประเทศเหมือนพี่น้องกัน 37 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศพิสูจน์ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนไทยนั้นเป็นแบบอย่างของการอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง เอื้อประโยชน์ต่อกันและพัฒนาร่วมกันระหว่างประเทศที่มีระบบสังคมที่ต่างกัน ถ้าหากว่าสรุปสั้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนนั้น แบ่งประเด็นได้ดังนี้
1) การไปมาหาสู่กันของภาคผู้นำเป็นไปอย่างบ่อยครั้ง ตั้งแต่การสถาปณาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมาผู้นำของจีนทุกรุ่นทุกสมัยต่างก็ได้มาเยือนประเทศไทยและพระบรมวงศานุวงศ์ก็ได้เสด็จไปเยือนประเทศจีนบ่อยครั้ง ผู้นำด้านต่างๆทั้งทหาร ตำรวจและคณะรัฐสภาของไทยต่างก็ได้ไปเยือนประเทศจีนบ่อยครั้ง เดือนธันวาคมของปีที่แล้ว รองประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการและได้รับผลที่น่าพอใจ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯเสด็จพระราชดำเนินไปยังประเทศจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 17-19 เมษายนนี้ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินทางไปเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ การไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งของทั้งสองประเทศจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศพัฒนาอย่างยั่งยืน

2) ประเทศไทยและประเทศจีนเมื่อห้าปีก่อนได้มีการลงนามร่วมในการปฏิบัติเชิงยุทธศาสตร์    ซึ่งได้กำหนดแนวทางในการพัฒนาของทั้งสองประเทศมีกลไกการหารือทางด้านการทูต   กลไกความร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านทวิภาคีสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
3) นอกจากนี้แล้วประเทศไทยได้ดำเนินการด้านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับท้องถิ่นต่างๆของประเทศจีน ได้ตั้งกลไกความร่วมมือกับท้องถิ่นจีนหลายแห่ง อาทิ เช่น ยวิ๋นนาน กวางตุ้ง กวางสี และเชี่ยเหมิน   ฝ่ายจีนให้ความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ของท้องถิ่นไทย   และอยากจะแจ้งข่าวที่สำคัญให้สื่อมวลชนทุกท่านได้รับทราบตอนนี้นอกจากสถานทูตจีนประจำกรุงเทพฯแล้ว   ที่เชียงใหม่และที่สงขลาเรามีสถานกงสุลอีก 2 แห่ง   และช่วงที่ผ่านมานี้ฝ่ายจีนได้เสนอไว้ว่า   อยากจะตั้งกงสุลใหญ่ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น   และทางไทยได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว   ซึ่งอยู่ในขั้นสุดท้ายแล้ว   และจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง   ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจการค้าได้รับผลอย่างน่าพอใจ    โดยประเทศจีนเป็นประเทศเป้าหมายการส่งออกอันดับ 1 และประเทศแหล่งนำเข้าอันดับ 2 ของประเทศไทย   ประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนการค้าอันดับ 3 ในอาเซียน   สามเดือนแรกของปีนี้ยอดการค้าทวิภาคีเพิ่มสูงขึ้นคิดเป็นอัตราเพิ่ม 66 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2011 จีนได้ลงทุนกับประเทศไทย 9.5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ   เป็นประเทศที่มีการลงทุนเป็นดับสองของไทย   ปีที่แล้วรองประธานาธิบดี สิง จิ้น ผิง ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยและได้ลงนามได้ลงนามใน MOUความร่วมมืออย่างยั่งยืน และข้อตกลงสำคัญอีกหลายฉบับ   และตั้งเป้าไว้ว่าปี２０１５ยอดการค้าทวิภาคีจะบรรลุเป้าหมาย３ ล้านดอลลาร์สหรัฐ งานที่จัดขึ้นในเยาวราชทุกปีงานคอนเสิร์ตสายสัมพันธ์สองแผ่นดิน โดยมีเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เป็นบุคคลสำคัญของวัฒนธรรมสองประเทศและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากประชาชนสองประเทศ
4) การเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทยได้รับความนิยมมาก   โดยมีสถาบันขงจื๊อถึง １２แห่ง　ห้องเรียนขงจื๊อ１１ห้อง ตามสถิติมีคนไทยเรียนภาษาจีนตอนนี้มากกว่า ８แสนคน นักศึกษาไทยที่จีนและนักศึกษาจีนที่ไทยมีจำนวนมากกว่า 1 หมื่นคนได้กลายเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและมิตรภาพซึ่งกันและกัน จีนและไทยเป็นประเทศเป้าหมายการท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน
5) ความร่วมมือในกิจกรรมระดับภูมิภาคดำเนินอย่างใกล้ชิด   ไทยได้เป็นประเทศแรกที่ได้ลงนานในข้อตกลงด้านการค้าผักและผลไม้ก่อนประเทศอื่นในอาเซียน   ภายใต้กรอบกระบวนการค้าเสรีจีนอาเซียน   ไทยยังได้เป็นประเทศแรกที่ส่งหน่วยรบพิเศษร่วมซ้อมรบกับจีน    ในฐานะที่เป็นสมาชิกอาเซียนประเทศไทยก็มีบทบาทสำคัญในอาเซียนในด้านการผลักดันกระบวนการร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวของจีนและอาเซียนและความร่วมมือในระดับภูมิภาคด้วย   เมื่อย้อนกลับไปพบว่าความร่วมมือระหว่างจีนกับไทยนั้น   ซึ่งดำเนินไปหลายระดับแล้ว   เป็นไปอย่างกว้างขวาง และเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อการพัฒนาของสองประเทศ   และนำผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ    อนาคตคาดว่าความร่วมมือของไทยจีนก็คงจะดำเนินต่อไปเพื่อความพัฒนาของทั้งสองประเทศ   และเชื่อมั่นว่าความพยายามของรัฐบาลและประชาชนของทั้งสองประเทศด้านความสัมพันธ์ในอนาคตจะพัฒนามากขึ้นอย่างแน่นอน

大使透露：
   中国方面非常重视和泰国地方政府关系，我向大家透露一个很重要信息我们中国在泰国除了大使馆之外目前在清迈、宋卡两个地方有总领事，最近双方刚刚通过了审议，中方提出了在泰国东北部的孔敬设立总领馆这件事情，已经得到泰国政府许可。
ฝ่ายจีนให้ความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ของท้องถิ่นไทย   และอยากจะแจ้งข่าวที่สำคัญให้สื่อมวลชนทุกท่านได้รับทราบตอนนี้นอกจากสถานทูตจีนประจำกรุงเทพฯแล้ว   ที่เชียงใหม่และที่สงขลาเรามีสถานกงสุลอีก 2 แห่ง      และช่วงที่ผ่านมานี้ฝ่ายจีนได้เสนอไว้ว่า   อยากจะตั้งกงสุลใหญ่ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น   และทางไทยได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว   ซึ่งอยู่ในขั้นสุดท้ายแล้ว   และจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง

相关文章

最新资讯

栏目热门

泰国多语言网站设计制作

FRISTWEB建站用户送 500MB 企业邮箱